Matrix Ozik Program
โดยปกติแล้วก้านที่ใช้ใส่เหล็กนั้น หลายๆท่านรวมทั้ง โปรในทัวร์ทั้งหลาย ต่างให้ความสำคัญกับความแน่นอนของการตีในแต่ละช๊อต มากกว่า ระยะที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโปรใน PGA Tour ส่วนใหญ่ต่าง ไว้วางใจและเลือกใช้ก้านเหล็ก เช่น True Temper Dynamic Gold, True Temper Dynamic Gold Tour Issue, True Temper Project X, KBS C-Taper เป็นต้น นักกอล์ฟหลายๆท่านรวมทั้งโปร ต่างหลีกเลี่ยงที่จะใช้ก้าน กราไฟท์ในชุดเหล้กเนื่องจากว่า ก้านกราไฟท์นั้นความแน่นอนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับก้านเหล็ก แต่ข้อดีก็คือ สำหรับท่านที่มีวงสวิงที่ไม่เร็ว จะสามารถทำให้เพิ่มระยะได้
ถึงแม้ว่าก้านเหล็กนั้นจะมีความนิ่งและแม่นยำสูงก็จริง แต่ในทางกลับกันถ้าหากตีไม่โดน กลางหน้าไม้ ส่วนใหญ่จะสะท้านขึ้นตัวเลย ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการบาดเจ็บในระยะยาวได้ แต่ในวันนี้ บริษัทก้านไม้กอล์ฟที่ชื่อว่า Matrix มีก้านใส่เหล็กรุ่นหนึ่งที่ เรียกได้ว่าเป็นก้านกราไฟท์ที่ใส่เหล็กที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งในเรื่องของ ระยะ วิถีลูก ความแน่นอน ความง่ายในการตี และ ไม่สะท้านเข้าตัวเลย ซึ่งเป็นการชดเชยความผิดพลาดได้ดี ก้านรุ่นนี้มีชื่อว่่า Matrix Ozik HD Program
ก้าน Matrix Ozik HD Program เรียกได้ว่าเป็นก้านที่แม่นยำที่สุดในโลก และ แม่นยำยิ่งกว่าก้านเหล็กในท้องตลาดทั่วไปเสียอีก และ โปรใน PGA TOUR บางคนนั้นเริ่มที่จะสลับมาใช้ก้านตัวนี้แล้ว เช่น Ryan Moore เป็นต้น
Ryan Moore กับ ก้าน Matrix Ozik HD Program 130 X Flex 7.0 |
ลักษณะของก้าน Matrix เป็นก้าน High Launch / High Spin ซึ่งจะเหินสูงกว่า ตีง่ายกว่า และ สปินเยอะกว่า เมื่อเทียบกับก้านเหล็กทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งการสปินที่เยอะกว่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อชดเชยในเรื่องของกฎร่องหน้าไม้ใหม่ที่บังคับใช้ V Groove แถมยังมีหน้าตาที่ ขาว สวย น่าตี มากครับ
การทดสอบความนิ่งของก้านใส่เหล็ก ในท้องตลาดนั้นทาง Matrix ได้ทำการทดสอบโดยการนำหุ่นยนต์ที่ใช้ทดสอบไม้กอล์ฟที่มีความแม่นยำในการลงไม้ และ impact บอลแบบเกือบ 100% มาใช้ในการเปรียบเทียบผลลัพธ์ของก้าน Matrix Ozik Program และ ก้านเหล็กอื่นๆ โดยใช้เหล็ก 5 ในการตี โดยก่อนการทดสอบนั้นหุ่นยนต์จะถูกตรวจเช็คอย่างละเอียดถึง 3 ครั้ง เพื่อความแม่นยำในการทดสอบ ซึ่งผลที่ได้นั้นเป็นไปตามรูปด้านล่างเลยครับ
รูปทางซ้าย (1): ผลการทดสอบวัดในเรื่องของ มุมเหิน และ สปิน
รูปทางขวา (2): ผลการทดสอบวัดในเรื่องของ ความแม่นยำ และ การกระจายตัวห่างจากเป้าหมาย ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
ถ้าท่านสังเกตุดูดีๆจาก ภาพประกอบทางซ้าย จะเห็นได้ชัดเลยว่า ก้าน Matrix Ozik Program นั้นมีมุมเหินที่สูงกว่า (26.5 - 27 องศา) และ อัตราการสปินที่เยอะกว่า (7,500 - 8,000 RPM) อีกทั้งยังมีความเสถียรของของอัตราสปิน และ มุมเหิน กว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ ก้านเหล็กที่มีความเสถียรของอัตราสปิน และ มุมเหิน ที่น้อยกว่า เราจะสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ก้านเหล็กนั้น มีมุมเหินที่อยู่ในช่วงที่กระจายมากกว่า และ ในบางลูกของการทดสอบก้านเหล็กนั้น ต่อให้มีมุมเหินที่สูงกว่า ไม่ได้แปลว่าลูกนั้นจะมีสปินที่เยอะกว่า พูดง่ายๆก็คือ เวลาตีก้านเหล็กต่อให้ดีบอลโด่ง ก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่า บอลนั้นจะตกหยุดครับ
คราวนี้เรามาดูที่ภาพประกอบทางขวา ท่านนักกอล์ฟจะเห็นได้ชัดเลยว่า ก้าน Matrix Ozik Program นั้นมีความแม่นยำที่มากกว่าก้านเหล็ก ถ้าลองสังเกตุดูในภาพทางขวาดู จะเห็นได้ชัดเลยว่า ก้านเหล็กนั้น จะออกไปทางขวาออกเป้าหมายเป็นหลักถึงแม้ว่าจะมีแนววิถีที่เกาะกลุ่มกันก็ตาม ก็ยังไม่เกาะกลุ่มและเข้าใกล้เป้าหมาย เท่ากับ ก้าน Matrix Ozik Program ซึ่งมีมุมเหิน อัตราการสปิน และ การเข้าใกล้เป้าหมายที่แน่นอนกว่า ก้านเหล็กครับ
จากที่ผมได้ไปทดลองมานั้น ทำให้ผมเข้าใจได้เลยว่า สิ่งที่ทาง Matrix พูดนั้นเป็นความจริง โดยที่ผมนำ ก้าน Matrix HD Program 130 Flex X ไปใส่กับ เหล็ก Tour Issue Callaway X Prototype Red Dot ใบแบบเดียวกับที่ Ernie Els ใช้ ดังรูปด้านล่าง
สำหรับผลการทดสอบนั้น ต้องบอกก่อนว่าในช่วงแรกๆที่ตีนั้นตีแทบไม่โดนเลยครับ เหตุผลก็เพราะว่า มุมลงของก้านกราไฟท์และก้านเหล็กนั้นไม่เหมือนกัน จึงใช้เวลาปรับตัวประมาณ 20 ลูกจึงเริ่มเจอมุมลง สิ่งที่ได้เมื่อตีโดนเต็มใบก็คือ มันให้ความรู้สึกที่ไม่มีคำว่ากระด้างเลยแม้แต่นิดเดียว มันนุ่มสบาย แต่รู้สึกได้เลยกว่าก้านนั้นนิ่ง และ มีบางช๊อตที่เข้าไม่เต็มหน้าไม้ ก็อย่างที่ทาง Matrix ได้อธิบายสรรพคุณไว้ คือ ไม่มีสะท้านเข้าตัวเลยแม้แต่นิดเดียวครับ เวลาที่ผิดพลาดลูกจะไม่มี หักคอ หรือ บานปลาย แบบหน้าเกลียด แต่จะเป็นทรงที่เลี้ยวนิดๆ ประมาณ 5-10 หลา จากเป้าหมายครับ ซึ่งแน่นอนถ้าเป็นกรีน ถ้าเราเล็งกลางกรีนก็คงหลุดไปแค่ Fringe แน่นอน
ในเรื่องของวิถีบอลนั้นผมได้ทดสอบการออกของลูกโดยกำหนดจุดเล็งในอากาศไว้ จุดหนึ่ง สิ่งที่ได้พบก็คือ ลูกออกไปในทางเดียวกันเยอะมา อย่างที่ทาง Matrix ได้อธิบายสรรพคุณ ไว้อีกเช่นกันครับ เหล้กที่ผมใช้ทดสอบนั้น เป็นเหล็ก 6 ลักษณะที่ลูกออกไป นั้นจะออกโด่งว่าเล็กน้อย แต่ไม่มากจนเกินไป บอลที่ออกไปจะออกไปเฉื่อยๆทั้งทาง ซึ่งเราเห็นแล้วรู้เลยสปินเยอะกว่า และ ตกหยุดอย่างแน่นอน ระยะนั้นไม่มีเสีย และ ผลลัพธ์ที่ได้คือ "นิ่งกว่าก้านเหล็กแน่นอนครับ"
ส่วนการทดสอบในภาคสนามนั้น ผมได้ค้นพบว่า เวลาที่เจอลมแรงๆนั้น ก้านตัวนี้หลังจากตีออกไปแล้วบอลนั้นนิ่งมาก บอลสามารถแหวกอากาศได้ดี ไม่ปลิวตามลมมากเท่าไร อีกทั้งยังง่ายต่อการแต่งช๊อตอีกด้วยครับ จากประสบการณ์ของผมที่เคยตีก้านกราไฟท์ ที่ใส่เหล็กตัวอื่นๆ เวลาที่ผมจะตี เฟต หรือ ดรอว์ นั้น ค่อนข้างที่จะควบคุมได้ยาก เนื่องจากว่าก้านกราๆฟท์ตัวอื่นๆที่เคยลองกับเหล็กนั้น มีการดีดตัวที่ค่อนข้างจะสูงกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ลุกโด่งจนเกินไป และ เลี้ยวเยอะเกินไปกว่าที่เราต้องการครับ
สำหรับ Spec ของ ก้าน Matrix Ozik HD Program นั้น มีทั้ง Parallel Tip (0.370) และ Taper Tip (0.355) มีทั้งก้านชุดเหล็ก และ Wedge 95 และ 130 ซึ่งสามารถดูได้จากตารางด้านล่างครับ
ก้าน Tour Issue ต่างกับ ก้าน Retail ยังไง?
โดยปกติแล้ว ก้านไม้กอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดๆก็ตามจะถูกผลิตออกมาทีหลายพันเส้นใน สายการผลิต
ข้อแตกต่างของก้าน Tour Issue ที่แต่ละบริษัทก้าน ทำและส่งให้ โปรในทัวร์ใช้ ก็คือ
ก้านที่ทำและส่งให้โปรในทัวร์ใช้นั้น จะเป็นก้านที่มีมวล Graphite ที่ดีและหนาแน่นกว่า ถึงแม้ว่าก้านนั้น เป็นรุ่นและยี่ห้อเดียวกับที่มีขายในท้องตลาดก็ตาม
นอกจากนี้ ก้านที่ทำและส่งให้โปรในทัวร์ใช้นั้น จะถูกวัดค่า CPM Frequency มาได้แม่นยำมากกว่าในท้องตลาด เช่น ก้านที่เป็น Flex X นั้น CPM จะอยู่ในช่วงค่าที่เหมาะสมที่จะเป็น Flex X แบบเม่นยำ แต่ก้านที่เป็นรุ่นเดียวกันและยี่ห้อเดียวกันกับในท้องตลาดนั้น บางตัวอาจจะเป็น Flex X ที่มีค่าที่ไม่แน่นอน ซึ่งบางตัวเมื่อนำมาวัดแล้ว Flex ที่แท้จริงอาจอยู่ในช่วงค่า ของ Flex S หรือ Flex XX ก็เป็นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าจะโชคดีเจอก้านที่มี ค่า Flex ที่พอดี หรือ ไม่พอดีกับที่ท่านต้องการหรือเปล่านะครับ
สนใจสั่งซื้อ หรือ มีคำถาม ติดต่อมาได้นะครับ โปร แอ๊งค์ 081-868-9993
ตัวที่ผมสามารถสั่งได้นั้นเป็น ก้าน TOUR ISSUE ทั้งหมดเลยนะครับ !!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น