Welcome !!!!!

ยินดีต้อนรับสู่ Pro Sarkay Tour Issue Golf ครับ เรามีไม้กอล์ฟ Tour Issue จากหลากหลายยี่ห้อ ส่งตรงมาจาก Tour Department นะครับ พร้อมทั้งรับทำ Custom Fitting ได้ ถ้าหากท่านนักกอล์ฟท่านใดต้องการ หาไม้กอล์ฟ หรือ อุปกรณ์กอล์ฟตัวใดเป็นพิเศษ ทั้ง Tour Issue และ Retail Version และ อุปกรณ์กอล์ฟอื่นๆ อย่างลังเลที่จะติดต่อเข้ามานะครับ เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบสนองท่านนะครับ

โปร แอ๊งค์ 0612626635

Learn Perfect Golf Swing HERE !!!!!

RotarySwing.com Golf Instruction Online

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Review: R11s Driver



 
Driver ที่ยอดฮิตที่สุดในปี 2011 คือ R11 และ R11 TP ซึ่งเป็น Driver ที่น่าพึงพอใจมากๆ สำหรับหลายๆท่านรวมทั้งโปรในทัวร์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็น Taylormade Tour Staff Players และ ไม่ใช่ Tour Staff Players ของ Taylormade อีกหลายๆคน อาทิเช่น Luke Donald, Padraig Harrington, Robert Rock, Jesper Parnevik และโปรอื่นๆอีกหลายคน โปรในทัวร์หลายๆคนบอกว่า Taylormade R11 Driver เป็น Driver ที่สามารถปรับเข้าหาตัวของเขาได้ เพราะเนื่องจาก Driver หลายๆตัวก่อนหน้านี้นั้น ผู้เล่นนั้นต้องปรับเข้าหาไม้

    Driver R11 และ R11 TP นั้นเป็น Driver ที่ติด 1 ใน 10 ของ Tour Driver Rankings และ Game Improvement Driver Rankings ใน ปี 2011 อีกด้วย ซึ่ง Driver ตัวนี้ ทางบริษัท Taylormade ได้ทุ่มทุนวิจัยไป
กว่า $1 ล้าน (32 ล้านบาท) จนได้ Driver ที่เราหลายๆคนคิดว่า ล้ำหน้าไปมากแล้ว

   แต่กลับมาในปี 2012 Taylormade ได้ทุ่มทุนเพิ่มอีก $3 ล้าน (100 ล้านบาท) เพื่อวิจัยและพัฒนาต่อยอด เทคโนโลยี Driver ในแต่ละ Line  ก่อนหน้านี้ผมได้พูดถึง RBZ Driver ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ใครหลายๆคนอาจจะมองว่า ไกลจนเกินความเป็นจริง แต่ในหน้านี้ผมจะพูดถึงอีกตัวหนึ่งที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก R11 ที่ Taylormade ทุ่มทุนมหาศาล ในการวิจัย คือ Taylormade R11S Driver
R11S และ RBZ

มีอะไรใหม่ใน R11S บ้างเมื่อเทียบกับ R11?

  • ขนาดหัว: R11S 460 CC       R11 440 CC
  • ASP Plate ที่สามารถปรับ Face Angle ได้มากถึง 5 ตำแหน่ง  เปิดและปิดได้ถึง  3 องศา เมื่อเทียบกับ R11 ที่เปิดและปิด Face Angle ได้ แค่ 2 องศา โดยการปรับ Face Angle นี้ไม่มีผลต่อ องศาหน้าไม้
  • FCT Tecnology ที่สามารถปรับองศาหน้าไม้ขึ้นลงได้ถึง 1.5 องศา ในขณะที่ R11 สามารถทำได้แค่ 1 องศา
  • Inverted Cone Techonology (ICT) ใน R11S ช่วยเพิ่ม Ball Speed ได้ 5-9 mph ที่ใช้ชดเชยความผิดพลาดเวลาตีโดนไม่เต็มหน้าไม้ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ระัยะไม่เสียหรือาจจะเสียน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับ R11 ที่ไม่มี Technology นี้
R11S Driver


R11S vs R11S TP

  • ต่างกันตรงที่ Lie ของ R11S จะเป็น 59.5 องศา แต่ R11S TP จะเท่ากับ 61 องศา ซึ่งการมี Lie ที่มากกว่าจะทำให้ลูกออกไปทาง Fade Bias มากกว่า แต่ทรงหัวอื่นๆนั้นไม่ต่างกัน
  • R11S TP ก้านจะเป็น Adila RIP Phenom 65 มีให้เลือกตั้้งแค่ X, S , R ก้านจะตึงกว่า ซึ่งเหมาะกับท่านนักกอล์ฟที่มี Club Head Speed ที่เร็วกว่า
  • R11S ก้านจะเป็น Adila RIP Phenom 60 มีให้เลือกตั้้งแค่ X, S , R, M  
R11S Specification

CLUB9.010.512.0
HandR/LR/L
HEAD PROPERTIES
Loft10.5°12°
Lie Angle59.5°59.5°59.5°
Head Volume460cc460cc460cc
CLUB PROPERTIES
Club Length45.75"45.75"45.75"
Club Swing WeightD4D4D4

 divider
SHAFT PROPERTIES

Aldila® RIP® PHENOM 60

FlexXSRM
Weight68g63g58g53g
Torque3.43.43.63.6
Tip Size.350.350.350.350
TractoryMidMidMidMid
Tip ProfileFirmFirmFirmFirm
Swing TempoMediumMediumMediumMedium

R11S TP Specification

CLUB9.010.512.0
HandR/LR/L
HEAD PROPERTIES
Loft9.0°10.5°12°
Lie Angle61°61°61°
Head Volume460cc460cc460cc
CLUB PROPERTIES
Club Length45.75"45.75"45.75"
Club Swing WeightD4D4D4

 divider
SHAFT PROPERTIES

Aldila® RIP® PHENOM 65

FlexXSR
Weight66g63g60g
Torque2.72.93.6
Tip Size.335.335.335
TractoryLowLowLow
Tip ProfileStiffStiffStiff
Swing TempoMediumMediumMedium



 ผมได้ทำการทดสอบ R11s Tour Issue ที่สนามไดรฟ์กับโปรแกรม Golf Archiever ผมทำการตี 10 ลูก คัดลูกใหม่ๆ ทั้งหมดนี้คือ ระยะแครี่ล้วนๆครับ แต่ละ shot ปรับแต่งตามความเหมาะสม ซึ่งผมจะอธิบายในภายหลังครับ ผลที่ได้เป็นดังนี้ครับ 


วิถีลูกและการเข้าบอลทดสอบโดยใช้ R11s Tour Issue Txxxxx
วิดีโอคลิปต่อไปนี้จะเป็นการทดลองและปรับแต่ง R11S กับ Dustin Johnson, Sean O'Hair และ Sergio Garcia ครับ








จะปรับแต่ง R11S ให้เหมาะกับสวิงของเราได้อย่างไร?
ท่านนักกอล์ฟ สามารถปรับ ได้ตาม Link ด้านล่างนี้เลยครับ
http://www.taylormadegolf.com/products/drivers/r11s-driver




ผลการ Test ของผมที่ได้ทำการปรับแต่งแล้วเป็นอย่างไร?

โดยปกติแล้ว ผม เป็นคนตีลูกออกซ้ายเป็นธรรมชาติ เวลาที่ผมไดรฟ์หลุดลูกก็จะออกไปทางซ้ายค่อนข้างเยอะ ผมใช้ R11S Tour Issue Txxxxx + 9 องศา ก้าน OBAN Revenge 7 X น้ำหนัก 75 กรัม

3 ลูกแรก:  ผมเริ่มด้วยการการปรับทุกอย่างให้เป็น Neutral ให้หมด หมายความว่า

               องศาหน้าไม้ที่ 9 องศา (Neutral)
               ASP Plate ที่ N
               น้ำหนัก 2 กรัม ไว้ที่ปลายไม้ (Toe) และ น้ำหนัก 10 กรัม ไว้ที่โคนไม้ (Heel)

3 ลูกถัดมา: ผมเปลี่ยน Settings เล็กน้อย

                องศาหน้าไม้ที่ 9 องศา (Neutral)
               ASP Plate ที่ O
               น้ำหนัก10 กรัม ไว้ที่ปลายไม้ (Toe) และ น้ำหนัก 2 กรัม ไว้ที่โคนไม้ (Heel)
 ผลทีไ่ด้คือ ลูกนั้นตรงขึ้น ออกจะเฟดมากและโด่งมากไป

4 ลูกสุดท้าย: ผมเปลี่ยน Settings โดยที่

               องศาหน้าไม้ที่ 8.25 องศา (ระหว่า Neutral กับ Lower)
               ASP Plate ที่ C
               น้ำหนัก 10 กรัม ไว้ที่ปลายไม้ (Toe) และ น้ำหนัก 2 กรัม ไว้ที่โคนไม้ (Heel)
 ผลทีไ่ด้คือ ลูกนั้นตรง และได้ Ball Flight ที่ทะลุทะลวง และไม่เลี้ยวทางใดทางหนึ่งมากจนเกินไป
Back Spin Rate อยู่ระหว่าง 2100 - 2500 rpm ทั้ง 4 ลูก ผลที่ได้ก็คือ 4 ลูกตรงกลางจอที่ท่านเห็น แครี่ข้ามระยะ 300 หลาไปครับ 






วิถีลูกและการเข้าบอลทดสอบโดยใช้ R11s Tour Issue Txxxxx


ระยะเหล่านี้เป็นระยะแครี่ล้วนๆนะครับ ส่วนระยะวิ่งนั้นทุกลูกวิ่งเฉลี่ย ราวๆ 10-20 หลาครับ
ทดสอบโดยใช้ R11s Tour Issue Txxxxx
ควรนำ R11S ไป Modify ก้านหรือไม่?


     อันนี้ก็สุดแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านนะครับ ว่าจะโมหรือไม่โม แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือว่า ก้านที่มาจากโรงงานที่ติดมากับหัว Driver นั้นเรียกว่า ก้าน OEM (Original Equipment Manufacturer) ซึ่งก้าน OEM นั้นเป็นเพียงแค่ก้านกราไฟท์ ธรรมดาๆที่นำมา Screen ยี่ห้อและรุ่นของก้านที่บริษัทก้านนั้นๆได้ทำสัญญากับบริษัทไม้เอาไว้ ก้านเหล่านี้เป็นก้านที่ไม่ได้ผ่านการ ทำ Spine Alignment, หาค่า CPM, หาค่า Frequency, Torque ที่ชัดเจน จนบางครั้ง เช่น Flex R ที่ Screen เหมือนกัน อาจจะมีความแข็งที่ไม่เท่ากันก็เป็นได้ ตัวหนึ่งอาจจะตีแล้วนิ่ง แต่อีกตัวหนึ่งอาจจะตีแล้วไม่นิ่งและระยะไม่ค่อยดี


ก้าน OEM ของ R11S

    ก้าน OEM ที่ผมบอกไปว่า บริษัทก้านนั้นๆได้ทำสัญญากับบริษัทไม้เอาไว้ เช่น Taylormade R11S เซ็นสัญญากับบริษัทก้าน อย่าง Adila เพื่อที่จะได้นำก้าน Adila RIP Phenom มา Screen ลงบนก้าน กราไฟท์ โดยที่ทั้งสองมีผลประโยชน์ทางการตลาดร่วมกัน สรุปก็คือว่าท่านจะไม่นำก้านไปโมก็ไม่เป็นไรครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความโชคดีของท่านนะครับ ว่าจะเจอก้าน OEM เกรดดีหรือเปล่า เพราะมันค่อยข้างมีการผิดพลาดในการผลิตเยอะ

ก้าน OEM ของ R11


  ดังนั้นถ้าให้ผมแนะนำผมจึงขอแนะนำให้นำไม้ของท่านไปโมหาก้านที่เหมาะสมใส่ดีกว่า เพราะก้าน OEM ที่เป็นยี่ห้อ และ รุ่นเดียวกันนั้น คุณภาพก็ไม่เท่าก้าน โมแท้ๆครับ ผมแนะนำว่าการที่ท่านจะโมก้านนั้นควรที่จะ ไปหา Pro Shop ที่มีการทำ Fitting ดีๆ ที่มีเครื่อง Trackman หรือ Flight Scope ก็ได้ครับ เพราะการเลือกก้านที่ถูกต้องสำหรับท่านนักกอล์ฟแต่ละท่านนั้น จำเป็นต้องรู้ข้อมูลการตีอย่างละเอียดเช่น Ball Flight, Back Spin Rate, Angle of Attack, ระยะแครี่, ระยะรวม เป็นต้น ซึ่งถ้าสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้ ช่างมืออาชีพจะสามารถแนะนำก้านที่เหมาะสมกับท่านได้อย่างแน่นอน รวมถึงขนาด Grip ที่เหมาะสมกับท่านอีกด้วยครับ  ผลก็คือท่านก็จะได้ไม้ที่เหมาะสมที่สุดกับท่าน ที่ตีได้ระยะ และ ทิศทางตามที่ท่านต้องการครับ








R11S Retail Version กับ R11S Tour Issue ต่างกันอย่างไร?

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเรื่อง Tour Issue Golf Club VS Retail Golf Club ได้จากบทความก่อนหน้านี้นะครับ

R11S Tour Issue จะมีทั้งหมด 4 รุ่นที่ออกมา

  • R11S Tour Issue Version 1 (460 CC)
  • R11S Tour Issur Version 2 (420 CC)
  • R11S Tour Issur DOT Head Version 2 (420 CC)
  • R11S Tour Issue White HOT Face (460 CC)    (ที่สุดของความ RARE หายากวสุดๆ !!!!!)
R11S Tour Issue หน้าขาว ตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่ Dustin Johnson, Sergio Garcia, Sean O'Hair ใช้ตี Test ใน Video ก่อนห้านี้ครับ

สรุปแบบรวบรัดของความแตกต่างของ Tour Issue
  • ลูกจะพุ่งแรงและเร็วแบบเสถียรทั้งทางมากกว่ากว่า ตัว Retail Version และ Driver  ตัวอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
  • Serial Number จะเป็น Txxxxx
  • COR Test จะมี + ที่คอไม้ และ Mark + กลางหน้าไม้
  • Tour Department จะหา Sweet Spot ที่แท้จริงมาให้
  • ผ่านการทำ Hotmelt มา
  • ทุกหัวจะถูกทำให้ COR เบียดขอบของที่กฎกำหนดไว้ที่ 0.83 ที่สุด แต่ใน Retail Version จะอยู่ที่ประมาณ 0.72 ซึ่งถ้าท่านไปดู Tour Pro ระดับโลกในสนามจริง หรือ ในทีวี เวลาที่โปรพวกนี้ตี Driver ต่อให้เป็นยี่ห้อเดียวกัน และ รุ่นเดียวกันกับที่ขายตามท้องตลาด เสียงจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง หัว Tour Issue ที่โปรเหล่านี้ตี จะมีเสียงที่ใสและแน่น แต่ หัว Retail ที่ขายตามท้องตลาดจะมีเสียงที่ออก ทึบๆแข็งๆ กว่าพอสมควร
  • ลด Back Spin Rate ลง ได้ถึง 400-600 RPM ซึ่งสามารถเพิ่มระยะได้ถึง 20 หลา หรือมากกว่า
  • จะมีหัวที่ Deep กว่าเล็กน้อย
  • หัวที่เป็น DOT Head จะมี Stamp DOT จุดเหนือตัวเลขระบุองศาหน้าไม้
  • ตีง่ายกว่าหัว Retail Version อย่างเห็นได้ชัด !!!!!
  • ท่านที่ Club Head Speed ไม่ถึง 100 mph หรือ 100 mph -105 mph ก็สามารถเพิ่มระยะได้จาก เดิม 10-20 หลาครับ !!!
ลองสังเกตุจุด ที่อยู่เหนือ 10.5 จะมีเฉพาะใน Tour Issue DOT Head เท่านั้น



จากสถิติที่ผมได้เก็บมาจากการตีไม้ Tour Issue ผมได้ลองตีเปรียบเทียบกับตัว Retail Version แล้ว ผลปรากฎว่า ระยะหายไปกว่า 10 - 15 หลาเลยทีเดียว ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า

ผลการทดสอบกับคนที่ Club Head speed ไม่แรงมาก เพิ่งเสร็จสดๆร้อนๆเลยครับ !!

เพื่อนของผมเพิ่ง Test มาวันนี้ จากเดิม ตี R11 ใส่่ก้าน Diamana Ahina 60 S 
Club Head Speed 103 mph



โดยการใช้ Driver ทุกตัวตี Test เพื่อวัดระยะ และ ตี Driver ต่างยี่ห้อเทียบกัน 
ทุกไม้ตีไม้ละ 3-6 ลูก 

ผลปรากฎว่า เพื่อนผมตีได้สถิติ เฉลี่ย จากการตี 6 ลูกดังนี้ 

Titleist 910 D2 8.5*                                                               261 หลา

R11 TP    9*                                                                           269 หลา

RBZ Prototype Tour Issue Txxxxx    9.5*                           294 หลา
Taylormade R11S Prototype Tour Issue Txxxxx   9*         303 หลา


พื่อนของผมเพิ่ง Test มาวันนี้ จากเดิม ตี  Burner Superfast TP 9.5* ใส่่ก้าน Fujikura Robax 6z08 60 R 
Club Head Speed 92-98 mph

ผมได้ทำการ Test แบบเดียวกับเพื่อนผมก่อนหน้านี้อีกเช่นกันครับ โดยการใช้ Driver ทุกตัวตี Test เพื่อวัดระยะ และ ตี Driver ต่างยี่ห้อเทียบกัน 
ทุกไม้ตีไม้ละ 3-6 ลูก 

Titleist 910 D2 8.5*                                                                243 หลา
R11 TP    9*                                                                            248 หลา
RBZ Prototype Tour Issue Txxxxx    9.5*                            269 หลา
Taylormade R11S Prototype Tour Issue Txxxxx   9*          274 หลา

จากสถิติเหล่านี้ ระยะนี้ คือ ระยะที่ตก แล้ว รวมวิ่ง (Total Distance) ซึ่งเราสามารถบอกได้ว่า

 นักกอล์ฟทุกประเภท และ ทุกความสามารถนั้น สามารถตีไม้ Tour Issue ได้แน่นอนครับ !!!!!!
และ

หัวตัว Retail Version จะไม่มีวันตีได้ระยะเท่านี้ 
เด็ดขาด !!!!!!






สนใจติดต่อ โปร แอ๊งค์ 081-868-9993




สนใจโทรมาคุยกันนะครับ ผมไม่สะดวกตอบเมล์ครับ









2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ26 มีนาคม 2555 เวลา 13:44

    taylormade tour issue บอกได้ว่า feeling ดีกว่า driver ที่ผมเคยตีมาทั้งหมด ระยะออกมาดีและคงเส้นคงวา ลูกตกวิ่ง ตีมันมาก เมื่อวานซ้อม driver ไปเกือบสี่ถาด มันจริงๆ ยิ่งเห็นระยะตอนตกและวิ่ง ยิ่ง drive ยิ่งมัน ไม่เหนื่อยเลย

    ปล.หาก้านที่เหมาะกับตัวเองด้วยนะครับ เพื่อที่จะดึงประสิทธิภาพได้สูงสุด

    ตอบลบ
  2. ผมเป็นคนที่ชอบเปลี่ยน Driver ทดลองของใหม่ ได้ซื้อหัว R11s Tourissue มาใช้ไม่ผิดหวัง feeling ดี ระยะแครีก็ไกลขึ้น ลูกตกแล้ววิ่งมากขึ้น control ก็ถือว่า ง่าย ชอบและคิดว่าคุ้ม

    ตอบลบ